CFARM ต่อยอดธุรกิจรุกอุตฯ ฟาร์มโคนม
นายชูรัตน์ จึงธนสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) หรือ CFARM ประกอบธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ ประเภทฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อให้กับคู่สัญญาในรูปแบบเกษตรพันธสัญญาแบบประกันราคา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติเข้าลงทุนในอุตสาหกรรมโค ขนาด 1,250 ตัว พร้อมอาคารสิ่งปลูกสร้างและเครื่องจักรการผลิตน้ำนมดิบ เฉลี่ย 17 ล้านลิตรต่อปี บนที่ดินของบริษัท ที่ตำบลโคกสูง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 419.58 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตนมเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 1/69
ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวเป็นการต่อยอดการเติบโตและหาโอกาส ใหม่ในการกระจายความเสี่ยงของบริษัทไปสู่ธุรกิจใกล้เคียง คือกลุ่มธุรกิจปศุสัตว์ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ จึงเล็งเห็นโอกาส และช่องทางการเติบโตจากลงทุนในอุตสาหกรรมโค ซึ่งคาดว่าจะสร้างผลตอบแทนจากการดำเนินงาน รวมถึงเป็นโอกาสในการเติบโตที่มั่นคงให้บริษัทในระยะยาว
สำหรับแหล่งที่มาของเงินลงทุนในโครงการดังกล่าว มาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท และ/หรือการขอรับการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ณ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทยังมีเงินระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) คงเหลือจำนวน 156.62 ล้านบาท ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อขอเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินดังกล่าว โดยจะมีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งต้องได้รับมติอนุมัติไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของผู้มีสิทธิออกเสียงและมาร่วมประชุม ทั้งนี้ หากบริษัทไม่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น บริษัทยังสามารถจัดหาแหล่งเงินทุนสำรองจากสถาบันการเงิน และ/หรือจากแหล่งเงินทุนอื่น เพื่อพัฒนาโครงการต่อไป โดยบริษัทจะ พิจารณาจัดหาแหล่งเงินทุนอย่างระมัดระวัง โดยคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นเป็นเป็นสำคัญ เพื่อให้เป็นไปตามแผนงานที่บริษัทวางไว้
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบในทางลบต่อการดำเนินธุรกิจ และสภาพคล่องของบริษัท และบริษัทจะยังคงดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทต่อไป แต่การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินดังกล่าว เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัทในระยะยาว อีกทั้งการมีแหล่งรายได้ที่หลากหลายจะช่วยเสริมสร้าง ความมั่นคงทางการเงินให้กับบริษัท และยังถือเป็นช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจในชุมชนอีกด้วย
สำหรับธุรกิจปัจจุบัน บริษัทมีการทำธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ ประเภทฟาร์มเลี้ยงไก่พันธุ์เนื้อให้กับคู่สัญญา ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเกษตร ด้วยเหตุนี้ การนำเงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้น IPO ไปใช้ตามวัตถุประสงค์เดิมจึงอาจมิได้ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทและผู้ถือหุ้น บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องพิจารณาและลดความเสี่ยงในการทาธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ ประเภทฟาร์มเลี้ยงไก่พันธุ์เนื้อเพียงประเภทเดียว จึงได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมโค คาดว่าธุรกิจดังกล่าวอาจจะส่งผลดี และช่วยในการกระจายความเสี่ยงจากการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน บริษัทจึงมีการขยายไปทำอุตสาหกรรมโค เพื่อเลี้ยงและผลิตน้ำนม คาดว่าจะสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจและช่วยในการกระจายความเสี่ยงจากการประกอบธุรกิจในปัจจุบันของบริษัท จากกรณีดังกล่าวได้ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสใน การสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัทในระยะยาว
***********************