MASTER ผนึกพันธมิตรแดนอิเหนา
MASTER ก้าวอีกขึ้นสู่ความเป็นหนึ่งในผู้นำศัลยกรรมด้านความงามแห่งเอเชีย เดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ ประกาศร่วมมือ "Lumeo Health" พาร์ทเนอร์ใหม่ผู้ให้บริการคอนเซียร์ทางการแพทย์ที่มุ่งเน้นการดูแลด้านความงามจากแดนอิเหนา อ้าแขนรอรับลูกค้าบินลัดฟ้าเข้ามาใช้บริการ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ลูกค้าต่างชาติเป็น 50% หวังรายได้แตะ 8 พันล้านใน 2-3 ปี ส่วนผลงานปีนี้การันตีรายได้โต 20% ตามเป้า
นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital ผู้นำอุตสาหกรรมด้านความงามของประเทศไทยและเอเชีย เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปิดดีลความร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้เป็นบริษัทระดับภูมิภาค (Regional Company) โดยล่าสุดได้ร่วมพิธีลงนามความร่วมมือ (MOU) กับ Lumeo Health ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคอนเซียร์ทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย มุ่งเน้นที่การศัลยกรรมความงามและการดูแลด้านความงาม
สำหรับความร่วมมือดังกล่าว เนื่องจากทาง Lumeo มองเห็นถึงศักยภาพของ MASTER ซี่งพบว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซีย ซึ่งชาวอินโดนีเซียจะใช้เงินประมาณ 11.8 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปีสำหรับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ โดยมีประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมาย จึงได้เกิดเป็นความร่วมมือดังล่าวขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ เช่น อินโดนีเซีย เมียนมาร์ สปป.ลาว และกัมพูชา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความเป็นผู้นำระดับภูมิภาค ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการมอบบริการที่มีคุณภาพระดับสากล โดย MASTER ตั้งเป้าหมายเป็นศูนย์กลางศัลยกรรมความงามแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่แผนการดำเนินงานของ MASTER ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ลูกค้าต่างชาติเป็น 40-50% จากปีนี้ที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 25-30% ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ใน 3 ปีที่ระดับ 8 พันล้านบาท และมีกำไรมากกว่า 880 ล้าน
"MASTER GROUP มุ่งมั่นที่จะขยายการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในด้านศัลยกรรมความงามและการแพทย์เฉพาะทาง รวมถึงมีการเพิ่มขึ้นของกำลังซื้อ และความนิยมในหัตถการความงามในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ความต้องการบริการขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาคนี้ โดยมองว่า ตลาดภูมิภาคมีการเติบโตสูง และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของทั้งนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และคนในท้องถิ่นที่หันมาสนใจศัลยกรรมและความงามมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศอย่างอินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา และไทย ซึ่งประชากรที่มีกำลังซื้อสูง มีความสนใจการทำศัลยกรรมความงามเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยได้เห็นถึงความสำเร็จจากการขยายฐานลูกค้าและการเติบโตที่โดดเด่นของกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ผ่านการทำงานร่วมกับเครือข่าย Influencer และช่องทางการตลาดออนไลน์ที่ช่วยสร้างความรู้จัก และเพิ่มความไว้วางใจให้กับ MASTER ในฐานะศูนย์กลางศัลยกรรมความงามระดับภูมิภาค โดยบริษัทมุ่งเน้นการนำเทคนิคทางการแพทย์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการให้บริการ และขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในระดับภูมิภาค" นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าว
ส่วนภาพรวมผลดำเนินงานไตรมาส 4/67 จะเป็นช่วงสำคัญที่ผลักดันทั้งรายได้และกำไร คาดว่าจะเห็นการเติบโตที่โดดเด่นจากลูกค้าต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันตารางผ่าตัดของทีมแพย์ ในเดือนธันวาคมมีมากกว่า 80% จากปกติอยู่ 60% ทำให้มั่นใจว่า รายได้รวมปีนี้จะสามารถเติบโต 20% ตามเป้ายที่วางไว้
ด้านนางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER กล่าวว่า ต่อจากนี้จะเริ่มเห็น MASTER ก้าวสู่การเป็น Regional Company โดยจะมีความร่วมมือกับ MASTER PARTNER ในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของบริษัทไปยังตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย MASTER ร่วมพิธีลงนามความร่วมมือ หรือ MOU กับ Lumeo Health ซึ่งบริษัทจัดตั้งอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย โดยมีสำนักงานในจาการ์ตา ซึ่ง Lumeo Health มีความโดดเด่นในฐานะที่ปรึกษาศัลยกรรมความงามและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่ครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับการเติบโตภายในประเทศของบริษัท ถือว่าแข็งแกร่ง โดย MASTER GROUP มีจุดให้บริการมากกว่า 90 แห่งทั่วประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ในทุกภูมิภาค โดยให้บริการที่ครอบคลุมความต้องการในทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งด้านศัลยกรรมความงามและการแพทย์เฉพาะทาง ถือเป็นจุดแข็งของเราในการตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลาย และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ขณะที่ Dr. Queencha Chaidy ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Lumeo Health กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานกับโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital ผู้นำอุตสาหกรรมด้านความงามของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดว่าการลงนาม MOU ครั้งนี้จะเป็นการผนึกกำลังอีกขั้นของการพัฒนาด้านศัลยกรรมความงาม ให้เติบโตในระดับภูมิภาค
**********************