แชร์

TIDLOR อวดกำไรปี 67 โต 11.6%

อัพเดทล่าสุด: 10 ก.พ. 2025
32 ผู้เข้าชม

TIDLOR อวดกำไรปี 67 ทำนิวไฮ โต 11.6% พุ่งแตะระดับ 4,230 ล้านบาท  โชว์เบี้ยประกันโตทะลุ 10,000 ล้านบาท ด้าน NPL คุมอยู่หมัดที่ 1.81% ต่ำกว่ากรอบที่วางไว้ไม่เกิน 2% ขณะที่แผนงานปีนี้ ยังคงขับเคลื่อนโดยคณะผู้บริหารมืออาชีพ พร้อมให้ความสำคัญกับการเฝ้าติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ ทั้งภายในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง พร้อมปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สามารถสร้างการเติบโตให้กับภาพรวมการดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง

               นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิสูงสุดใหม่ที่ 4,230.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.6% จากปีก่อน จากการเติบโตของรายได้จากการขยายตัวของทั้งธุรกิจสินเชื่อ การเพิ่มขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ รวมถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจนายหน้าประกัน โดยในปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 22,160.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.8% จากปีก่อน ซึ่งรายได้หลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยรับ และรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการ สำหรับผลการดำเนินธุรกิจสินเชื่อ ณ สิ้นปี 2567 บริษัทมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 103,933.7 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.6% จากปีก่อน และควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้ดี NPL ปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.81%

               นอกจากนี้ บริษัทยังมีเบี้ยประกันวินาศภัยรวมมูลค่า 10,176.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.4% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการผสมผสานการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย

               สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/67 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,044.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5.4% จากไตรมาสก่อน โดยการเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3*67 ส่วนใหญ่มาจากการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิต ที่ปรับลดลง 30.2% รวมถึงรายได้รวมที่เติบโตขึ้นจากการกลับมาขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ หลังจากที่ชะลอตัวในไตรมาสก่อนหน้า และเบี้ยประกันวินาศภัยที่เติบโตในระดับสูงที่ 23.8%

               ส่วนภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 1,778 แห่ง และยังคงให้ความสำคัญกับการใช้จุดแข็งด้านเทคโนโลยีที่สร้างและพัฒนามามากกว่า 10 ปี ทั้งด้านสินเชื่อ โดยมี "บัตรติดล้อ" จากข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2567 ได้ส่งมอบบัตรติดล้อให้กับลูกค้าแล้วมากกว่า 735,000 ใบ เพิ่มขึ้น 14%  และยังมีบริการโอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชีผ่านแอปพลิเคชันเงินติดล้อ ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้ามีการเบิกวงเงินสินเชื่อผ่านบริการดังกล่าวสูงถึง 70% เมื่อเทียบกับช่องอื่นๆ สะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจสินเชื่อ และการยกระดับบริการทางการเงิน ด้วยเป้าหมายเพื่อช่วยลูกค้าลดต้นทุนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ และช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเงินทุนเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินได้สะดวกยิ่งขึ้น

               ขณะที่การดำเนินธุรกิจนายหน้าประกัน ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีด้านนายหน้าประกัน ทำให้บริษัทสามารถนำเสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าถึงได้และครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้า ซึ่งการดำเนินธุรกิจในปี 2567 ที่ผ่านมา แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่บริษัทยังคงมีศักยภาพสามารถสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง โดยธุรกิจนายหน้าประกันมีเบี้ยประกันวินาศภัยรวมมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาท และธุรกิจสินเชื่อมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างมากกว่า 100,000 ล้านบาท ขณะที่คุณภาพพอร์ตสินเชื่อรวมของบริษัทอยู่ในระดับที่ดีและควบคุมได้ โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL Ratio) ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 1.81% ปรับตัวลดลงจาก ณ ไตรมาส 3/67 และยังคงอยู่ภายในกรอบเป้าหมายที่กำหนดไว้ไม่เกิน 2.0% ขณะที่ยังคงอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (%NPL Coverage) ในระดับแข็งแกร่งที่ 242.7%

               "ด้วยความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา ควบคู่กับประสิทธิภาพในการบริหารโครงสร้างเงินทุน ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 2.5 เท่า ขณะที่บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีวงเงินกู้ยืมคงเหลืออีกมากกว่า 26,000 ล้านบาท และมีความสามารถในการชำระคืนเงินกู้ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้การออกหุ้นกู้ในปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยมียอดแสดงความจำนงในการจองเกินกว่ายอดที่เสนอขาย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการได้รับอันดับเครดิตที่ A/Stable จากทริสเรทติ้ง ซึ่งถือเป็นระดับสูงที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกันอีกด้วย"



               สำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทยังคงขับเคลื่อนโดยคณะผู้บริหารมืออาชีพ ที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ โดยยังคงให้ความสำคัญกับการเฝ้าติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง พร้อมปรับกลยุทธ์และแผนต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สามารถสร้างการเติบโตให้กับภาพรวมการดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐ ตามหลักธรรมาภิบาล โดยปีที่ผ่านมาบริษัทช่วยสร้างเครดิตทางการเงินให้ลูกค้ามากกว่า 362,000 ราย ส่งเสริมให้คนไทยสามารถเข้าถึงความคุ้มครองด้านประกันภัยได้มากกว่า 999,000 ราย และยังสานต่อโครงการ เพื่อส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้แก่ผู้คนในชุมชน หน่วยงานภายนอก และนักศึกษา อย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้เข้ารับการอบรมรวมมากกว่า 780 คน นอกจากนี้ ยังตระหนักถึงความสำคัญด้านการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจและบริการ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

               ความคืบหน้าของการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัท สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติคําขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ พร้อมกับการทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์เดิมของ "ติดล้อ โฮลดิ้งส์" แล้ว และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทได้รับอนุญาตในการตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของติดล้อ โฮลดิ้งส์ จากหน่วยงานที่กำกับดูแลแล้ว โดยปัจจุบันติดล้อ โฮลดิ้งส์ อยู่ระหว่างกระบวนการให้แบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนมีผลใช้บังคับ ซึ่งคาดว่ากระบวนการแลกหุ้น (Tender Offer) จะเกิดขึ้นภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 สำหรับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของ TIDLOR ได้ที่เว็บไซต์ www.tidlorinvestor.com

*************************


บทความที่เกี่ยวข้อง
SNPS เคาะจ่ายปันผล 0.13 บ./หุ้น
SNPS เตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นขออนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดปี 2567 ในอัตรา 0.13 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 21 มีนาคมนี้ หลังทำผลงานโตทะลุเป้า พร้อมพิจารณาอนุมัติแต่งตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ครบกําหนดออกจากตําแหน่งตามวาระ
13 มี.ค. 2025
GBX ตั้งเป้า AUM ทะลุหมื่นล้าน
GBX เปิดเกมรุกปี 2568 ตั้งเป้าการเติบโตทางธุรกิจ 10% เล็งขยายธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง เพิ่ม AUM แตะ 1 หมื่นล้านบาท พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้ง DRx และ Structured Note รองรับนักลงทุนทุกกลุ่ม รวมถึงศึกษาแนวทางพัฒนา Gold Link Note เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนในอนาคต
13 มี.ค. 2025
COCOCO บุกตลาดอินเดีย
COCOCO ยกทัพสินค้าเปิดตลาดแดนภารตะ เข้าร่วมงานแสดงสินค้า AAHAR - International & Hospitality Fair 2025 งานแสดงสินค้านานาชาติด้านอาหารและบริการในรูปแบบ B2B ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอินเดีย ระบุเพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการตลาด รับออเดอร์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
13 มี.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy