จับทิศราคาทองคำ มีลุ้นทำ New High
GCAP GOLD ประเมินทิศทางราคาทองคำหลังสหรัฐฯ ประกาศภาษีใหม่ ระบุส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาทองคำ หากมีการประกาศภาษีที่รุนแรง ราคาทองคำอาจพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือทองคำมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย นักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด (GCAP GOLD) ประเมินว่า ทิศทางตลาดทองคำในสัปดาห์นี้ ยังคงเผชิญกับความผันผวน พร้อมแนะนำให้จับตาทิศทางทองคำหลังประกาศภาษีใหม่จากนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาทองคำ ทั้งนี้ หากมีการประกาศภาษีที่รุนแรง ราคาทองคำอาจพุ่งสูงขึ้น นักลงทุนอาจหันมาถือทองคำมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
ดังนั้น ประเมินว่า ราคาทองคำมีทิศทางเป็นขาขึ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดย GCAP GOLD ได้ประเมินเป้าหมายของการปรับตัวขึ้นระยะสั้นเบื้องต้นไว้ที่ 3,150 / 3,200 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และราคาทองคำไทยอาจทำ New High อยู่ที่ประมาณ 50,800 บาทต่อบาททองคำ และหากเงินบาทอ่อนค่าขึ้นเพิ่มเติมอาจจะเห็น 51,200 บาท
นอกจากนี้ ทั่วโลกยังเฝ้าจับตาการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของสหรัฐฯ ในวันที่ 2 เมษายน ที่จะถึงนี้ ซึ่งทางประธานาธิบดีทรัมป์ จะประกาศบังคับใช้ภาษีตอบโต้รอบใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดทางการค้าอยู่ในระดับสูงอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นภาษีและการตอบโต้จากประเทศอื่นๆ ตามมา
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องจับตามองในมาตรการทางภาษีรอบใหม่ครั้งนี้คือ ความเข้มข้นของภาษีตอบโต้จะมากน้อยเพียงใด และจะครอบคลุมสินค้าหรืออุตสาหกรรมใดบ้าง และการตอบโต้จากประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงของการตอบโต้จะขึ้นอยู่กับระดับภาษีที่สหรัฐฯ ประกาศและความพร้อมของแต่ละประเทศในการปกป้องเศรษฐกิจของตน อาทิ จีน อาจจะเลือกตอบโต้ด้วยภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ เช่น ถั่วเหลือง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, สหภาพยุโรปอาจตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและเครื่องบินพาณิชย์, เอเชียและประเทศเกิดใหม่ กลุ่มประเทศเอเชียที่พึ่งพาการส่งออกไปสหรัฐฯ อาจเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก ทำให้บางประเทศอาจเลือกตอบโต้ด้วยมาตรการที่ส่งผลต่อบรรษัทข้ามชาติสหรัฐฯ ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศนั้นๆ
สำหรับกลุ่มประเทศ Dirty 15 รายชื่อเบื้องต้นประกอบด้วย จีน เยอรมนี เม็กซิโก ญี่ปุ่น เวียดนาม เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินเดีย ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย สวิตเซอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ แคนาดา และอิตาลี ประเทศเหล่านี้มีดุลการค้ากับสหรัฐฯ เป็นบวกอย่างมาก ซึ่งหมายความว่า การส่งออกไปยังสหรัฐฯ มากกว่าการนำเข้า จึงตกเป็นเป้าหมายของมาตรการภาษีใหม่
*********************