หุ้นนี้มีประเด็น

ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นเริ่มมีทิศทางที่สดใสมากขึ้น หลังสถานการณ์หลายเรื่องเริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะประเด็นทางการเมืองที่กดดันบรรยากาศการลงทุนมาโดยตลอด และหลังจากนี้ คงได้เห็นถึงการเบิกจ่ายงบประมาณจากภาครัฐมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

              ยิ่งในช่วงนี้ เกิดปัญหาอุทกภัยขึ้นมาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะทางภาคเหนือ และเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ย่อมมีหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการนี้โดยตรง ซึ่งก็คือบริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO  ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายยางมะตอย ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการซ่อมแซมถนนหาทาง และยิ่งได้ออเดอร์จากการเบิกจ่ายงบประมาณเร่งด่วนเพื่อการซ่อมแซมด้วยแล้ว ยิ่งมีโอกาสที่จะเห็นผลการดำเนินงานของ TASCO ในช่วงที่เหลือของปีนี้ สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่น ตามที่นักวิคราะห์คาดการณ์ไว้

              นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า งบประมาณเกี่ยวกับการลงทุนของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบทที่ล่าช้ามา 7 เดือน ได้รับการอนุมัติในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุดได้ผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และ ได้เร่งเบิกจ่ายอย่างชัดเจน โดย ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท มีการเบิกจ่ายไปเพียง 25.2% และ 15.6% ของวงเงินงบประมาณ โดยยังเหลือเวลาอีก 4 เดือน คาดจะมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณมากขึ้น ดังนั้น คาดปริมาณขายในปี 2567 จะโต 7% ได้แรงหนุนจากตลาดในประเทศจะโต 16% แม้ว่าปริมาณขายในตลาดต่างประเทศจะทรงตัว และมีข้อจำกัด Feedstock ของโรงกลั่นในมาเลเซีย

              ด้านผลการดำเนินงาน คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้น โดยในช่วงเดือนเมษายน ราคา Asphalt cement ในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 24,400 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 9% จากราคาเฉลี่ยในไตรมาส 1/67 สำหรับราคา Asphalt cement ในตลาดต่างประเทศ เดือนพฤษภาคม เพิ่มเป็น 407 เหรียญต่อตัน หลังจากที่ลดลงไปที่ 396 เหรียญต่อตันในเดือนมีนาคม 2567 คาดจะช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น บวกกับสัดส่วนยอดขายในประเทศสูงขึ้น ซึ่งตลาดในประเทศมีกำไรดีกว่าตลาดต่างประเทศ โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 13.6% จากปี 2566 เท่ากับ 13.3%

              ขณะที่คาดการณ์ยอดขายของ TASCO ในปี 2567 จะได้แรงหนุนสำคัญจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ในไตรมาส 3-4/67 และจะได้แรงหนุนจากเริ่มงบประมาณปี 2568 ดังนั้น ปี 2567 คาดยอดขายที่ 32,050 ล้านบาท เติบโต 3% จากปีก่อน และ คาดจะมีกำไรปกติ 2,630 ล้านบาท เติบโต 8% จากปีก่อน ทั้งนี้ งบประมาณลงทุนปี 2568 ได้เพิ่มขึ้น 20% แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการแบ่งเป็นรายหน่วยงานที่ชัดเจน

              ส่วนกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น TASCO คงแนะนำ "ซื้อ" จากคาดกำไรจะฟื้นตัวและโดดเด่นในช่วงครึ่งหลังของปี รวมปี 2567 กำไรจะเติบโตได้ 8% จากปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากตลาดยางมะตอยในประเทศมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 หลังล่าช้า และได้แรงหนุนจากงบประมาณปี 2568 ที่จะเริ่มในเดือนตุลาคม 2567 ซึ่งล่าสุดในสัปดาห์ที่สามของเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการเร่งเบิกจ่ายเพิ่มขึ้นถึง 100% จากตัวเลขต่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ส่วนราคาหุ้นมี Valuation ปี 2567 ที่ถูก คือ P/E ที่ 10.3 เท่า และ มีเงินปันผลตอบแทนที่สูง 7.8% ประเมินราคาเป้าหมายที่หุ้นละ 20.00 บาท บนฐาน P/E ที่12 เท่า

              ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ระยะสั้นราคาหุ้นมีโอกาสได้แรงหนุนจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือที่เริ่มรุนแรงขึ้น หากลุกลามและขยายมายังจังหวัดอื่นๆ ในภาคกลางตอนบน จะเป็น Sentiment หนุน TASCO จากการซ่อมแซมถนนหลังน้ำลด หนุนความต้องการยางมะตอยในประเทศ ขณะที่ภาพรวมแนวโน้มกำไรงวดครึ่งปีหลัง คาดเร่งตัวขึ้นจากงวดครึ่ง จากการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ที่เร่งตัวในไตรมาส 3/67 ขณะที่งบประมาณปี 2568 คาดไม่ล่าช้าอย่างมีนัยยะเหมือนปีก่อน แนะนำ "เก็งกำไร" ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA consensus ที่หุ้นละ 18.57 บาท