เชียร์ "ซื้อ" PCE เคาะเป้า 3.60 บ./หุ้น
หุ้น PCE บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุน จากแนวโน้มของผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงาน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ณ ปัจจุบันหุ้น PCE ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน และเป็นหุ้นที่ให้อัตราเงินปันผลในระดับที่ดี
ล่าสุดยังมีประเด็นบวกที่น่าสนใจ โดยบริษัทได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ประเมินได้ว่า กำไรสุทธิในปี 2567 ออกมาดีตามคาด และโตต่อเนื่องถังในปี 2568 นี้ จากดีมานด์ในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า หุ้น PCE ได้ประโยชน์จากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันปาล์มใน 4QTD และยังมีแนวโน้มอยู่ระดับสูงต่อเนื่องช่วง 1 เดือนข้างหน้า ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Dividend Yield ปี 2567-68 ที่ระดับ 2.6-3.5%
ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2568 คาดแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น หลังอินโดนีเซียปรับเพิ่มอัตราผสมไบโอดีเซลเป็น B40 ซึ่ง PCE มีความได้เปรียบในตลาดส่งออก เนื่องจากเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของประเทศ อีกทั้งยังรับรู้ปริมาณขายไบโอดีเซลภายใต้สัญญาขายกับลูกค้ารายใหม่ และผลิตภัณฑ์ใหม่ RBDPKO ที่เริ่มจำหน่ายในปี 2567 เต็มปี ทำให้การลงทุนในหุ้น PCE จึงยังคงให้คำแนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเหมาะสมที่หุ้นละ 3.60 บาท
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ระบุว่า โดยมองว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ในช่วงไตรมาส 4/67 ต่อเนื่องถึงช่วงไตรมาส 1/68 คาดจะยังอยู่ในระดับสูง เป็นผลจากภาวะแล้งในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตออกมาน้อยกว่าปกติ ล่าสุดราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดไทยอยู่ที่ 53-54 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 60% จาก 33.25 บาทต่อกิโลกรัม ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งส่งผลดีต่อ PCE โดยตรง อีกทั้งคาดสถานการณ์ผลผลิตปาล์มที่ออกมาน้อยจะเริ่มคลี่คลายในช่วงไตรมาส 1/68 หลังจากไทยเริ่มเข้าสู่ภาวะ La Nina ซึ่งจะทำให้มีฝนตกมากขึ้นในภาคใต้ของไทย
นอกจากนี้ แนวโน้มการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบยังเติบโตดี และยังได้รับประโยชน์ หลังจากอินเดียปรับลดภาษีนำเข้าลงจาก 7.5% เป็น 5.0% ในช่วงต้นปี 2567 และคาดความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มทั้งจากจีนและทวีปยุโรป ยังมีแนวโน้มเติบโตดี
ขณะเดียวกัน การที่อินโดนีเซียมีนโยบายที่จะเพิ่มส่วนผสมน้ำมันไบโอดีเซล จากปัจจุบันที่ B35 เป็น B40 ในปี 2568 จะส่งผลดีโดยตรงต่อ PCE ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ของไทย โดยโอกาสเติบโตในอนาคตจะมาจากทั้งการส่งออกที่จะเพิ่มขึ้นทั้ง CPO และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งมี margin สูง ทั้งในที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตและอาหาร ตลอดจนความร่วมมือกับบางจากในการขาย B100 และน้ำมันประกอบอาหารที่ใช้แล้วสำหรับโครงการเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการช่วงต้นปี 2568
จากกรณีดังกล่าว ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อ PCE ทั้งสิ้น ดังนั้น การลงทุนในหุ้น PCE จึงยังคงแนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเป้าหมายปี 2568 ที่หุ้นละ 3.50 บาท บน P/E ที่ 16 เท่า
*************************